การปฏิวัติสตรอลีของปี ค.ศ. 1689: รอยแยกของอำนาจและการกำเนิดใหม่แห่งรัสเซีย

ในยามที่โลกกำลังก้าวผ่านยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาและเข้าสู่ศตวรรษแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ การปฏิวัติสตรอลีในปี ค.ศ. 1689 ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่สุดของรัสเซีย

เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากการลุกฮือของประชาชนหรือสงครามกลางเมือง แต่เป็นผลมาจากความขัดแย้งภายในระหว่างสองกลุ่มผู้มีอำนาจ: พวกผู้สนับสนุนพระเจ้าฟีโอดอร์ที่ 3 และพวกผู้สนับสนุนโซเฟีย อเล็กซีเยvna ซึ่งเป็นน้องสาวของพระองค์

หลังจากการสิ้นพระชนม์ของพระเจ้าอเล็กเซย์ Mikhailovich พระบิดาของทั้งสองในปี ค.ศ. 1676 รัสเซียตกอยู่ภายใต้การปกครองร่วมกันของฟีโอดอร์ และ โซเฟีย ซึ่งเป็นผู้สำเร็จราชการ

ในขณะที่ฟีโอดอร์ เป็นที่รู้จักในด้านความนุ่มนวลและชอบใช้ชีวิตแบบเงียบๆ โซเฟีย กลับเป็นผู้มีอำนาจและมุ่งมั่นที่จะควบคุมรัสเซียอย่างเด็ดขาด

ด้วยเหตุนี้ การบ่มเพาะอำนาจของโซเฟีย จึงสร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มขุนนางและอัศacrylate ซึ่งสนับสนุนฟีโอดอร์ และต้องการเห็นพระองค์ขึ้นครองราชย์อย่างสมบูรณ์

ภาพรวมของผู้มีส่วนร่วมที่สำคัญใน การปฏิวัติสตรอลี

ชื่อ	ตำแหน่ง
โซเฟีย อเล็กซีเยvna	ผู้สำเร็จราชการ และน้องสาวของพระเจ้าฟีโอดอร์ที่ 3
พระเจ้าฟีโอดอร์ที่ 3	ซาร์แห่งรัสเซีย

ความขัดแย้งระหว่างสองฝ่ายทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อ โซเฟีย เริ่มใช้อำนาจอย่างไม่เกรงกลัวและพยายามที่จะควบคุมทุกด้านของการปกครอง

ในปี ค.ศ. 1689 กลุ่มขุนนางที่สนับสนุนฟีโอดอร์ ยกทัพเข้ายึดพระราชวัง Kremlin และบังคับให้โซเฟีย ลงจากตำแหน่งสำเร็จราชการ

การปฏิวัติสตรอลี เป็นจุดหักเหสำคัญในประวัติศาสตร์รัสเซีย

ผลกระทบของ การปฏิวัติสตรอลี:

1. การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง: การปฏิวัติสตรอลี นำไปสู่การสถาปนาอำนาจสมบูรณ์ของพระเจ้าฟีโอดอร์ที่ 3 และการยุติการปกครองร่วมกัน

2. การเสริมสร้างศักยภาพของรัสเซีย: การขึ้นครองราชย์ของฟีโอดอร์ ทำให้เกิดความมั่นคงทางการเมือง และนโยบายต่างประเทศที่แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งนำไปสู่การขยายอาณาเขตและการพัฒนาเศรษฐกิจ

3. การเปลี่ยนแปลงทางสังคม: การปฏิวัติสตรอลี แสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอของระบบราชวงศ์ และเป็นจุดเริ่มต้นของการล่มสลายของระบอบราชาธิปไตยสมบูรณ์ในรัสเซีย

4. การกำเนิดแนวคิดใหม่: การปฏิวัติสตรอลี เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดแนวคิดทางการเมืองใหม่ๆ และนำไปสู่การปฏิรูปและการปฏิวัติครั้งใหญ่ในภายหลัง

การปฏิวัติสตรอลี ไม่ได้เป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงทางอำนาจเท่านั้น

มันยังเป็นตัวแทนของการเปลี่ยนแปลงทางสังคม

การเคลื่อนไหวครั้งนี้ทำให้เกิดการตั้งคำถามต่อระบบราชวงศ์และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในรัสเซียในภายหลัง